Skip to main content

ความแตกต่างระหว่าง | White Hat and Black Hat SEO

ทางลัด หรือ ทางรอด White Hat SEO and Black Hat SEO

การทำ การตลาดเวปไซต์แบบที่เรียกกันว่า SEO (Search Engines Optimizer) สามารถทำได้ในหลายรูปแบบ โดยทั้งนี้สามารถแบ่งออกได้เป็นสองแบบด้วยกันคือ การตลาดแบบใสสะอาดหรือที่เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า White Hat SEO และ การตลาดเวปไซต์แบบมืดดำ หรือเรียกว่า Black Hat SEO (เห็นชื่อแล้วเหมือนพ่อมดแม่มดในเรื่อง Harry Potter เลยนะครับ) ซึ่งโดยทั่วไปแล้วคนที่สนใจทางด้าน SEO จะไม่ค่อยทราบข้อมูลที่เท็จจริงในความแตกต่างว่าสิ่งไหนเป็นแบบขาว หรือแบบไหนดำ กันซักเท่าไหร่ 
ซึ่งโดยทั่วไปตามที่ SEO For Thai สามารถให้คำจำกัดความได้คือ หมวกสีขาว/การตลาดแบบใสสะอาด (White Had SEO) ส่วนใหญ่แนวทางและวิธีการทำงานจะเป็นไปในแนวทางของ กฏระเบียบของระบบ search engines ต่างๆได้ให้ไว้ และสำหรับส่วนความชั่วร้ายแบบ Black Hat SEO นั้นก็จะตรงกันข้ามกันโดยสิ้นเชิง โดยที่การทำงานคร่าวของทั้งสองฝ่ายจะแตกดังนี้

White Hat
White Hat
White Hat SEO

  • เนื้อหาเป็นในรูปแบบที่ให้ความรู้และความเข้าใจ มีสาระตรงประเด็นกับกลุ่มผู้สนใจต้องการค้นหา
  • Traffic ต่างๆที่ได้มา อยู่ในรูปแบบของการบอกต่อ มีคนสนใจจริงและได้ผูกลิงค์เพื่อเผยแพร่เนื้อหานั้นโดยธรรมชาติ
  • ตำแหน่งในหน้าผลลัพธ์ของเวปไซต์ search engines ต่างๆ ก้าวขึ้นในตำแหน่งที่ดีกว่าในปริมาณสม่ำเสมอ
  • จำนวนผู้เข้าชม (users) มีความมั่นคง และสามารถวัดผลได้เป็นตัวเลข
Black Hat
Black Hat
Black Hat SEO
  • มีช่องทางของ Traffic ที่ไม่มีความมั่นคง บางครั้งก็มากจนเกิดความแตกต่างจนเกินไป
  • เนื้อหาโดยรวมไม่ค่อยเชื่อมโยงกับสิ่งที่ผู้ค้นหาต้องการ
  • มีลิงค์แฝงอยู่ตามเนื้อหาเยอะเกินไป จนเกิดข้อแตกต่างกับเนื้อหาเดียวกันในเวปไซต์อื่น
  • เกิดการแบนด์เวปไซต์ในบาง search engines เนื่องจากผลของการจงใจสร้าง traffic มากเกินไป
  • ผิดวัตถุประสงค์ กฏเกณฑ์การจัดอันดับสำหรับเวปไซ์ให้บริการหาข้อมูล search engines

การทำเวปไซต์ให้ติดผลการค้นหา Search Engine Optimization (SEO) นั้น คุณเองก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ไม่มีเทคนิคอะไรที่ซับซ้อน(หาอ่านข้อมูลการปรับแต่งหน้าเวปไซต์ให้ติดอันดับ Search Engines ได้แล้วที่นี่) เพียงแค่คุณสร้างสรรค์ในแต่ละชิ้นงานเวปไซต์ของคุณให้มีคุณภาพที่ดี ครอบคลุมถึงคีย์เวิร์ดเด่นๆที่บ่งบอกและเกี่ยวพันถึงเนื้อหาภายในหน้าเพจนั้นๆก็พอ อาจเพียงแค่ว่าเวปไซต์ของคุณในช่วงแรกๆ จะมีผู้เข้าชมเป็นผลที่ไม่น่าพอใจซักเท่าไหร่ และดูเหมือนจะทำให้เกิดความกังวลกับจำนวนผู้เยี่ยมชมได้ แต่เชื่อว่าหลังจากที่ search engines ได้บันทึกเวปไซต์ของคุณในผลการค้นหาแล้ว จำนวนผู้เข้าชมจะเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าทวีคูณกันเลยทีเดียวครับ
และในทางตรงกันข้ามกับเวปไซต์ที่ใช้วิธีการในทางที่ผิดๆ ซึ่งในที่สุดแล้วผู้เยี่ยมชม หรือผู้ใช้งานก็จะทราบเอง และได้จากเวปไซต์นั้นไปอย่างไม่มีวันจะกลับมาอย่างเจตนาอีกต่อไป
โดยส่วนใหญ่พวก Black Hats จะชอบใช้วิธีการสแปม Spam ให้ได้ผลของการค้นหาให้เยอะที่สุด และเป็นประโยชน์ในทางธุรกิจของตัวเองเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งพวก White Hats ชอบที่จะปรับแต่งหน้าเวปไซต์ของตัวเองให้มีประสิทธิภาพในการค้นหาให้ถึงที่สุด ดังที่ได้พูดมาแล้วว่าการทำ การตลาดเวปไซต์ หรือ เทคนิค SEO นั้นมีทั้งทางที่ดีและไม่ดีคละเคล้ากันไป สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับเจตนาและความตั้งใจของแต่ละคนนะครับ

คุณสามารถเขียนคำติชม หรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านล่างครับ

Comments

Popular posts from this blog

สร้างความเป็นตัวตน + เรียกคะแนนจากกลุ่มลูกค้าบนเฟสบุ๊ค | Identified Yourself on Facebook & Growing your Business

สร้างความเป็นตัวตนบนโลกสังคมเครือข่ายด้วยเฟสบุ๊ค นอกเหนือจากสิ่งที่คุณได้ทำเป็นประจำ สำหรับการเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมในเวปไซต์ของคุณแล้ว สิ่งหนึ่งที่มืออาชีพ SEO และนักการตลาดเวปไซต์ทุกคนไม่ควรมองข้ามเลยก็คือการแสดงความเป็นตัวตนให้ชาวโลกได้รู้จักด้วยวิธีการง่ายๆด้วยสังคมออนไลน์ (Social Media)  สังคมออนไลน์ (Social Media) หรือสังคมเครือข่าย (Social Network) เป็นระบบหนึ่งที่มีบทบาทอยู่ในลำดับต้นๆของโลกอินเตอร์เนต ซึ่งถ้าเอ่ยชื่อถึง Facebook, Twitter, Google Plus ผมมั่นใจว่าไม่มีใครไม่รู้จัก แต่จะมากหรือจะน้อยก็ขึ้นอยู่กับความถนัดและความชอบของแต่ละคนด้วย มาเข้าเรื่องกันเลยนะครับ วันนี้วันที่ (28 มิถุนายน 2555) จากผลสำรวจมีผู้เป็นเจ้าของและใช้งาน    Facebook ถึง 8 ล้านกว่าคน เทียบกับเมื่อ 4ปีที่ผ่านมา มีจำนวนผู้ใช้เพิ่มขึ้นมากเป็นร้อยละ 90 คิดเป็นอันดับหนึ่งจากสถิติทั่วโลก บวกกับผลการวัดค่าความนิยมของเวปไซต์ อยู่ในระดับ PR9 จึงเป็นสิ่งที่แสดงถึงความนิยมของผู้ใช้งานที่ได้รับความเชื่อถือและใช้กันอย่างแพร่หลายเป็นอันดับหนึ่งในประเทศไทย ณ ปัจจุบันนี้  ซึ่งก็เป็นอีก

ความหนาแน่นของคีย์เวิร์ด | Keyword Density

ความหนาแน่นของจำนวนคีย์เวิร์ด Keyword Density Keyword Density บางคนอาจคิดว่าการเพิ่ม ความหนาแน่นของคีย์เวิร์ด  ในจำนวนที่มากนั้นเป็นช่องทางที่จะทำให้การทำ การตลาดเวปไซต์ ติดอันดับการค้นหาได้ดีขึ้น จริงๆแล้วในระบบ Algorithm ของแต่ละ Search Engines นั้น ไม่ได้คิดเช่นนั้น การที่เรามีคีย์เวิร์ดในจำนวนที่มากเกินความจำเป็น ดูแล้วรกหูรกตา และดูจงใจเกินไปนั้น ทางเวปไซต์ให้บริการค้นหาต่างๆจะทำการจัดให้อยู่ในเวปไซต์ที่พ่นคำค้นหาผิดปกติ ซึ่งก็คือเวปสแปม Spam นั่นเอง หรือบางทีเวปไซต์บางแห่งก็มีแต่กลุ่มคำที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดที่ได้กำหนดไว้เลยก็มี ซึ่งอาจส่งผลให้บ๊อทที่ตามเก็บข้อมูลเกิดความสับสนได้ในอนาคต ซึ่งกรณีดังกล่าวส่งผลเสียให้กับเวปไซต์ของคุณทั้งสิ้น * อาจเป็นการดีที่จะทำให้ทราบถึงจำนวนคีย์เวิร์ดในเวปไซต์ โดยที่คุณสามารถตรวจเช็คได้ด้วยตัวเองกับโปรแกรมฟรีมากมาย โดยคุณอาจ search เวปที่เกี่ยวกับการ check keyword density หรือ keyword density checker หรือคุณอาจะใช้โปรแกรม Microsoft Word ตรวจค้นว่าคำๆนึงที่คุณตั้งใจตั้งเป็นคีย์เวิร์ดของหน้านั้นๆ มีการใช้ไปจำนวน

การตลาดเวปไซต์ คืออะไร | What Is SEO?

What Is SEO เมื่อไหร่ที่นักท่องอินเตอร์เนตหรือผู้สนใจอินเตอร์เนตพิมพ์ข้อความ หรือคำบางคำ ที่พวกเขาต้องการจะค้นหาผ่านทางเวปไซต์ Search Engine ต่างๆ หรือบางคนเรียก การตลาดเวปไซต์ สิ่งที่พวกเขาได้รับกลับมาคือลิงค์จำนวนมากที่พุ่งตรงไปยังแหล่งข้อมูลปลายทาง ซึ่งล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นจากระบบปฏิบัติการ Algorithms ที่ซับซ้อนของระบบ Search Engine นั้นๆที่ได้มีการกำหนดไว้ ความหมายหรือใจความสำคัญของคำว่า SEO (Search Engine Optimization) ดังที่มีคนเคยให้คำนิยามไว้ในหลายๆที่ หรือแม้กระทั้งในเวปไซต์ Wikipedia ก็ตาม โดยสรุปได้คือเป็นขบวนการปรับปรุงเวปไซต์ในระบบการสืบค้นโดยวิธีการที่เป็นธรรมชาติ หรือไม่เกี่ยวข้องกับการจ่ายเงินนั่นเอง แต่ก่อนที่เราจะกล่าวเกี่ยวกับวิธีการหรือ เทคนิค SEO หรือขั้นตอนในการทำให้เวปไซต์เราติดอันดับผลการค้นหาของ Search Engine ในระบบสูงๆแล้วนั้น เรามารู้จักกระบวนการๆทำงานของ Search Engine กันโดยคร่าวๆก่อนนะครับ